"ดอกฮีเธอร์ (Heather) สัญลักษณ์แห่งงานวิวาห์ของชาวสก็อตแลนด์"

 

     ฮีเธอร์ (Heather)  เป็นไม้พุ่มเตี้ยในตระกูล Calluna vulgari  ถือเป็นต้นไม้พื้นเมืองแถบทวีปยุโรปและคาบสมุทรเอเชียตะวันตกระหว่างทะเลดำกับทะเลเมดิเตอเรเนียน

     ปกติแล้ว ต้นฮีเทอร์จะชอบขึ้นในบริเวณพื้นที่โล่งกว้าง  หรือท้องทุ่งอันไพศาลบนเนินเขาสูง  และจะผลิตดอกเบ่งบานสะพรั่งในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน  โดยธรรมชาติแล้วจะพบเห็นดอกฮีเธอร์เป็นสีม่วง

     แต่ยามใดที่ดอกฮีเธอร์สีขาวปรากฎขึ้น  เชื่อกันว่า นี่คือสัญลักษณ์ของความโชคดี  เป็นดอกไม้นำโชคแห่งสก็อตแลนด์  และ ณ ดินแดนของประเทศสก็อตแลนด์นี่เอง  ที่ตำนานดอกฮีเธอร์ได้กำเนิดขึ้นตามตำนานพื้นเมือง  และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสก็อตแลนด์  เช่นเดียวกับสัญลักษณ์ดอกโควเวอร์ 4 แฉก  ของไอร์แลนด์

     ตำนานดอกฮีเธอร์สีขาว  มีที่มาจากเรื่องราวความเชื่อที่ว่า  ดอกฮีเธอร์สีขาวจะปรากฎขึ้นเฉพาะบริเวณที่เคยเป็นสนามรบและสมรภูมิแห่งสงครามมาก่อน

     มีตำนานเรื่องของมัลวิน่าผู้เป็นบุตรสาวของออสเซี่ยน  กวีชาวเคลต์  คู่หมั้นของเธอคือ  ออสการ์  ถูกสังหารและเสียชีวิตกลางสมรภูมิรบ  ว่ากันว่าเมื่อผู้ส่งข่าวได้มาถึงและแจ้งข่าวร้ายนี้แก่เธอว่า  ชายอันเป็นที่รักได้จากเธอไปเสียแล้ว  ในตอนนั้นผู้ส่งข่าวได้นำดอกฮีเธอร์สีม่วงที่งอกเงยขึ้นเหนื่อบริเวณผืนดินที่ออสการ์เสียชีวิต  มามอบให้พร้อมกับคำพูดสุดท้ายของเขาที่ฝากไว้ให้เธอ

     มัลวิน่าเสียใจอย่างสุดที่จะประมาณได้  เธอกุมดอกไม้นั้นไว้และร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา  วิ่งไปกลางสนามหญ้าก่อนที่จะทรุดกายลงสะอึกสะอื้นร่ำไห้  น้ำตาของมัลวิน่าได้หยดหยาดลงบนดอกฮีเธอร์

    ทันใดนั้น  มันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นสีขาว  ด้วยเหตุนี้  มัลวิน่าจึงได้ประกาศต่อคนทั่วไปว่า  นับตั้งแต่ไป  ให้ดอกฮีเธอร์สีขาวจงนำความโชคดีมาให้แก่ผู้ใดที่ได้พบเห็นมัน  ในขณะเดียวกันเธอได้ระบายความเศร้าโศานี้ให้แก่ดอกฮีเธอร์สีม่วง  ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของข่าวร้ายมาสู่เธอ

    จากนั้นมาดอกธฮีเธอร์จึงกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในพิธีวิวาห์ของชาวสก็อตแลนด์  บริเวณโบสถ์ประกอบพิธี  เจ้าบ่าวจะนิยมเสียบกิ่งดอกฮีเธอร์สีขาวไว้ในกระเป๋าเสื้อ  ส่วนเจ้าสาวจะนิยมถือดอกฮีเธอร์สีขาวหรือทัดไว้บริเวณผม

   

    รอบๆพิธีแต่งงานจึงนิยมตกแต่งด้วยดอกฮีเธอร์สีขาว  โดยเฉพาะทางเดินเข้าสู่แท่นพิธี  จะใช้ดอกฮีเธอร์สีขาวประดับรอบๆ  ซึ่งความเชื่อแบบนี้ดูจะเป็นเอกลักษณ์พิเศษของชาวสก็อตแลนด์  ที่ไม่นิยมทำเป็นช่อดอกไม้หลากสีเหมือนชาติอื่นๆ

Ref : Field Guide to LUCK

Cr. : รูปภาพจาก google

-------------------------------------------------------------------------------------------------

ติดตามเรื่องราวดีๆของเราได้ที่

FB : https://www.facebook.com/Seewriter/

Blog : https://ccheryblackwriter.blogspot.com/

"พลังจิต Psychics"

"พลังจิต Psychics"


 
   คำว่า "Psychics"  หมายถึง  "พลังจิต"  หรือผู้ที่สามารถสื่อนำวิญญาณ  บางครั้งอาจมีความหมายคล้ายคลึงกับผู้ที่มีญาณวิเศษในการใช้จิตสื่อถึงวิญญาณ


     ลักษณะของผู้ที่มีพลังจิตคือ  เป็นการสื่อสารทางโทรจิตและสามารถรับรู้ด้วยสัมผัสพิเศษหรือที่เรียกว่า ESP  รวมไปถึงผู้ที่สามารถหยั่งรู้และสามารถทำนายเหตุการณ์ต่างๆ  ทั้งในอดีต  ปัจจุบัน  อนาคต


      ลักษณะของพลังจิตอาจคล้ายคลึงกับการหยั่งรู้อนาคต  แต่พลังจิตเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากกว่า  เพราะหลายครั้งที่อำนาจแห่งพลังจิตสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันมีอยู่จริง  ผู้ที่เกิดมามีพลังจิตเป็นที่ยอมรับโดยดุษฎีว่าเป็นผู้ที่ถูกเลือกจากสวรรค์  และเป็นพรสวรรค์อันวิเศษที่มีตั้งแต่เกิดเท่านั้น



   ประสบการณ์เกี่ยวกับพลังจิต  ที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน เช่น จู่ๆ คุณก็รูัสึกได้เองว่าจะมีใครบางคนโทรศัพท์มาหาคุณ  ก่อนที่เสียงโทรศัพท์นั้นจะดังขึ้นเสียอีก

    


    และการที่สามารถทำนายถึงเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ด้วยจิตหรือที่เรียกว่า "Sense"  เป็นเสมือนการสังหรณ์ถึงเหตุการณ์ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงๆ  เช่น  การรู้สึกลึกๆ  ว่าทีมใดจะชนะการแข่งขันฟุตบอลในแมตช์นี้  ความรู้สึกถึงพลังจิตของผู้มีพลังจิตจะเหมือนคลี่คลายความถี่ที่ฉายภาพอนาคตให้คนผู้นั้นรูึสึกสัมผัสได้ด้วยจิตเท่านั้น  และถ้าคุณมีพลังจิตจริงมันจะบอกคุณเองโดยอัตโนมัติ




Ref : Field Guide to LUCK

Cr. : รูปภาพจาก google

-------------------------------------------------------------------------------------------------

ติดตามเรื่องราวดีๆของเราได้ที่

FB : https://www.facebook.com/Seewriter/

Blog : https://ccheryblackwriter.blogspot.com/

"การตั้งจิตอธิษฐาน Making a Wish"

"การตั้งจิตอธิษฐาน Making a Wish"
      การตั้งจิตอธิษฐานเป็นการกระทำด้วยความหวังอันมุ่งมั่นที่เกิดขึ้นจาก "พลังความปรารถนา"  และ "ความเชื่อ"  ประกอบรวมไว้ด้วยการรวบรวมสมาธิอันแน่วแน่  เชื่อกันว่าหากตั้งจิตอธิษฐานได้ตามนี้  คำอธิษฐานนั้นๆ  จะเป็นจริงได้  ยิ่งถ้าคุณทำในเวลาที่เหมาะเจาะทั้งสถานที่และกาลเวลา  เช่น  การรวบรวมสมาธิตั้งจิตอธิษฐานก่อนเป่าเทียนวันเกิดบนเค้ก  หรือไม่ก็ในเสี้ยววินาทีก่อนที่ดาวตกจะลับขอบฟ้า


      ที่มา : มนุษย์เรารู้จักการตั้งจิตอธิษฐานมาอย่างยาวนาน  เกินกว่าจะมีการบันทึกไว้  แต่เรื่องราวของการปักเทียนบนขนมเค้กในวันเกิดก็มีคำอธิบายไว้ว่า



      ในอดีตกาลยุคต้นของอารยธรรมกรีก  ได้มีการทำขนมอบรูปทรงกลม  เพื่อถวายบูชาแด่องค์เทพีอาร์เทมิส (Artemis)  ผู้เป็นเทพีแห่งดวงจันทร์ตามความเชื่อของกรีก  ในการบูชานั้นจะต้องทำให้รอบๆขนมอบ  สว่างไสวด้วยเทียนไข  เพื่อให้เปลวเทียนลุกโชติช่วงดั่งแสงจันทราตามพระนามของอาร์เทมิส  ต่อมาจึงพัฒนากลายมาเป็นขนมเค้กวันเกิดที่ต้องปักด้วยเทียนไขให้สว่างไสว


      มีคำกล่าวไว้ว่า  เมื่อถึงเวลาเป่าเค้กวันเกิดภายหลังจากการตั้งจิตอธิษฐานแล้วนั้น  คุณจะต้องเป่าเทียนทั้งหมดให้ดับภายในลมหายใจเพียงเฮือกเดียว  คำอธิษฐานที่ตั้งมั่นไว้จึงจะเป็นจริง

     แต่เทียนไขเหล่านั้นจะต้องไม่ถูกโบกพัดให้ดับ  และคำอธิษฐานในใจคุณก็จะต้องไม่บอกกับใคร  



     เชื่อกันว่า  ควันเทียนที่ลอยล่องขึ้นสู่ฟ้าหลังจากผ่านการสว่างวาบด้วยเปลวไฟ  จะนำคำอธิษฐานเหล่านั้นบอกต่อสวรรค์  แล้วสวรรค์ก็จะได้ประทานความสุขตามที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้


      ในปัจจุบันเราจึงได้เห็นเค้กเป็นสัญลักษณ์ในการจัดงานวันเกิด  ทุกๆงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิด จะมีการปักเทียนบนเค้ก  และผู้เป็นเจ้าของวันเกิดก็จะอธิษฐานและเป่าเทียนนั่นเอง


Ref : Field Guide to LUCK

Cr. : รูปภาพจาก google

ติดตามเรื่องราวดีๆของเราได้ที่

FB : https://www.facebook.com/Seewriter/

Blog : https://ccheryblackwriter.blogspot.com/

แชรเรื่องราวประสบการณ์การเขียนนิยายครั้งแรก Ep.0

แชรเรื่องราวประสบการณ์การเขียนนิยายครั้งแรก  Ep.0

ก่อนอื่นต้องขอเล่าเรื่องราวของตัวเองก่อนสักนิด

เราเป็นสาวออฟฟิต ย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ  

แต่ด้วยความที่มีแฟนและแต่งงานกันแล้ว ทำให้เราต้องไป-กลับ กรุงเทพ - ระยองทุกอาทิตย์

ทำให้เราค่อนข้างเบื่อเย็นวันศุกร์ และเช้าวันจันทร์มาก

เราจึงวางแผนลาออก แต่จริงๆแล้วการวางแผนลาออกนี่เราคิดมาตั้งแต่ทำงานได้ 4 ปีแล้วละ

จนถึงวันที่แฟนเราขอแต่งงาน แผนนี้มันเลยเริ่มจริงจังมากขึ้น

และการที่เราลาออกมาอยู่บ้าน หนึ่งในงานที่เราอยากทำมากที่สุดก็คือการเขียนนิยายนั่นเอง

เราจึงอยากจะมาแชร์เรื่องราวการเขียนนิยายครั้งแรกให้เพื่อนๆฟัง

ติดตามเรื่องราวดีๆของเราได้ที่

                   FB : https://www.facebook.com/Seewriter/
Blog : https://ccheryblackwriter.blogspot.com/

"ถ่มน้ำลายแล้วจะโชคดี"

"ถ่มน้ำลายแล้วจะโชคดี"  ตามความเชื่อของชาวตะวันตก นี่คือเคล็ด ของการอวยพรให้ประสบโชคดี  เป็นสัญลักษณ์ของการปัดเป่าสิ่งร้ายๆ  ให้หมดไป  แล้วโชคดีและความสำเร็จจะตามมา  ยังเชื่อกันอีกว่าจะสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้าย ความตายและโรคภัย ให้มลายสิ้น อีกทั้งยังเป็นการวิงวอนขอให้พระเจ้าโปรดประทานพรช่วยเหลือ ให้มีชัยชนะในการต่อสู้


น้ำลายนั้นมาจากน้ำในกายมนุษย์  เป็นส่วนหนึ่งของวิญญาณที่มีเฉพาะผู้ที่มีชีวิตอยู่เท่านั้น  ดังนั้น การถ่มน้ำลาย จึงกลายเป็นสัญญาณว่าคุณยังมีลมหายใจและจิตวิญญาณอยู่นั่นเอง


ทหารโรมันทุกคนก่อนจะออกรบทำสงคราม จะถ่มน้ำลายลงบนฝ่ามือ  เพื่อมุ่งหวังให้จิตใจเกิดความหึกเหิมด้วยพลังแห่งกำปั้นอันแข็งแกร่ง  และจิตวิญญาณที่ยังคงอยู่กับตัวเอง


เรามักจะพบนักกิฬาที่มีความเชื่อนี้ ก่อนการลงแข่งขัน อาทิเช่น นักมวยจะถ่มน้ำลายลงบนนวมก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น  หรือ พิชเชอร์ (pitcher) ในกีฬาเบสบอล จะถ่มน้ำลายลงบนพื้นก่อนที่จะขว้างลูก


สตรีชาวกรีกจะถ่มน้ำลายสามครั้ง ภายหลังการพูดคุยถึงลูกหลานของตัวเอง  ซึ่งเชื่อว่าเด็กๆจะรอดพ้นจากการถูกปองร้ายจากนัยย์ตาปิศาจ  สตรีชาวยิวแม่จะไม่กล้าถ่มน้ำลายออกมา ก็จะออกเสียง ฟู่ ฟู่ ฟู่ เบาๆ สามครั้งแทน


ในไอร์แลนด์  บิดาของเด็กทารกที่เกิดใหม่ จะถ่มน้ำลายเบาๆ ลงบนตัวทารก เพื่อเป็นเคล็ดให้มีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย


ขาวสวีเดน  เมือเห็นแมวดำเดินข้ามผ่านหน้า จะรีบถ่มน้ำลายสามครั้งข้ามเหนือไหล่ซ้าย  เชื่อกันว่าจะปลอดภัยจากลางร้ายที่ไปเห็นแมวดำ




Ref : Field Guide to LUCK


ติดตามเรื่องราวดีๆของเราได้ที่

FB : https://www.facebook.com/Seewriter/

Blog : https://ccheryblackwriter.blogspot.com/

จุดเทียนเขียว

"เทียนเขียว" คือ...


สัญลักษณ์แห่งเงินทอง และโชคลาภ..

🔖🔖มีคนเคยบอกไว้ว่า🍉🍉 หากวันไหนต้องการเรียกเงิน...

ให้จุดเทียนสีเขียว แล้วทำการ่ายเวทย์มนต์เรียกเงิน ....
🎋ลองทำกันดูนะคะ




ติดตามเรื่องราวดีๆของเราได้ที่

FB : https://www.facebook.com/Seewriter/

Blog : https://ccheryblackwriter.blogspot.com/